มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


kaesinee61

















รองศาสตราจารย์ เกศินี วิฑูรชาติ
อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

ศาสตราจารย์ ดร. ชาลี เจริญลาภนพรัตน์
รองอธิการบดีฝ่ายวิชาการ


ศาสตราจารย์ แพทย์หญิง อรพรรณ โพชนุกูล
รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา


ศาสตราจารย์ ดร.ทันตแพทย์หญิง ศิริวรรณ สืบนุการณ์
รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม


รองศาสตราจารย์ ดร. กิตติ ประเสริฐสุข
รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์


รองศาสตราจารย์ ดร. ดนุพันธ์ วิสุวรรณ
รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนาคุณภาพ


รองศาสตราจารย์ ดร. สมชาย สุภัทรกุล
รองอธิการบดีฝ่ายการคลัง


รองศาสตราจารย์ นพ. กัมมาล กุมาร ปาวา
รองอธิการบดีฝ่ายบริหารทรัพยากรมนุษย์


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ปริญญา เทวานฤมิตรกุล
รองอธิการบดีฝ่ายความยั่งยืนและบริหารศูนย์รังสิต


ศาสตราจารย์ ดร. ไพโรจน์ กัมพูสิริ
รองอธิการบดีฝ่ายกฎหมายและบริหารศูนย์ลำปาง


รองศาสตราจารย์ ดร. ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์
รองอธิการบดีฝ่ายบริหารท่าพระจันทร์


รองศาสตราจารย์ พรชัย ตระกูลวรานนท์
รองอธิการบดีฝ่ายบริหารทั่วไป


ศาสตราจารย์ ดร. อุดม รัฐอมฤต
คณบดีคณะนิติศาสตร์


รองศาสตราจารย์ ดร. พิภพ อุดร
คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี


รองศาสตราจารย์ ดร. ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์
รักษาการแทนในตำแหน่งคณบดีคณะรัฐศาสตร์




ศาสตราจารย์ ดร. โกวิทย์ พวงงาม
คณบดีคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์




ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. อัจฉรา ปัณฑรานุวงศ์
คณบดีคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน


รองศาสตราจารย์ ดร. อนุสรณ์ อุณโณ
คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา


รองศาสตราจารย์ ดร. สมชาย ชคตระการ
คณบดีคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี







คณบดีคณะสหเวชศาสตร์


ศาสตราจารย์ ดร. มรรยาท รุจิวิชชญ์
คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์


รองศาสตราจารย์ เฉลิมวัฒน์ ตันตสวัสดิ์
คณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง




รองศาสตราจารย์ ดร. สสิธร เทพตระการพร
คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์


คณบดีคณะเภสัชศาสตร์


รองศาสตราจารย์ ดร. อนุชาติ พวงสำลี
คณบดีคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์




รองศาสตราจารย์ ดร. เดชา สังขวรรณ
คณบดีวิทยาลัยสหวิทยาการ


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นิธินันท์ วิศเวศวร
คณบดีวิทยาลัยนานาชาติปรีดี พนมยงค์


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. จิตติ มงคลชัยอรัญญา
คณบดีวิทยาลัยพัฒนศาสตร์ป๋วย อึ๊งภากรณ์


รองศาสตราจารย์ นพ. กัมมาล กุมาร ปาวา
รักษาการแทนในตำแหน่งคณบดีวิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์




ศาสตราจารย์ ดร. สมนึก ตั้งเติมสิริกุล
ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร




อาจารย์ ดร. อนุชา ทีรคานนท์
ผู้อำนวยการสถาบันไทยคดีศึกษา


ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ศุภชัย ศรีสุชาติ
ผู้อำนวยการสถาบันเสริมศึกษาและทรัพยากรมนุษย์


รองศาสตราจารย์ ดร. กิตติ ประเสริฐสุข
รักษาการแทนในตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษา


รองศาสตราจารย์ ดร. ศุภัช ศุภชลาศัย
ผู้อำนวยการสถาบันอาณาบริเวณศึกษา


นางพรพิมล บุญศิริ
ประธานสภาพนักงานมหาวิทยาลัย




คณะที่เปิดสอนมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คณะนิติศาสตร์
คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี
คณะรัฐศาสตร์
คณะเศรษฐศาสตร์
คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์
คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา
คณะศิลปศาสตร์
คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คณะวิศวกรรมศาสตร์
สถาบันเทคโนโลยีนานาชาติสิรินธร
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง
คณะศิลปกรรมศาสตร์
คณะแพทยศาสตร์
คณะสหเวชศาสตร์
คณะทันตแพทยศาสตร์
คณะพยาบาลศาสตร์
คณะสาธารณสุขศาสตร์
คณะเภสัชศาสตร์
คณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์
วิทยาลัยพัฒนศาสตร์ ป๋วย อึ๊งภากรณ์
วิทยาลัยนวัตกรรม
วิทยาลัยสหวิทยาการ
วิทยาลัยนานาชาติ ปรีดี พนมยงค์
วิทยาลัยแพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์
วิทยาลัยโลกคดีศึกษา
สถาบันภาษา


ประวัติคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์



คณะศิลปศาสตร์ได้จัดตั้งตามพระราชกิจจานุเบกษา พ.ศ. 2504 โดย ศาสตราจารย์อดุล วิเชียรเจริญ 
ผู้ริเริ่มจัดตั้งและเป็นคณบดีคนแรกของคณะศิลปศาสตร์ วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งคณะศิลปศาสตร์ในครั้งนั้น 
ก็เพื่อจัดการเรียนการสอนวิชาพื้นฐานทั่วไปให้แก่นักศึกษาทุกคณะใน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ก่อนเลือกเข้า
แขนงวิชาเฉพาะด้านในคณะต่างๆ ปัจจุบันคณะศิลปศาสตร์มีพันธกิจและภาระงานในความรับผิดชอบดังนี้

   1. ผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรีจำนวน 18 สาขาวิชา ได้แก่
      1.1 สาขาวิชาจิตวิทยา
      1.2 สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์
      1.3 สาขาวิชาประวัติศาสตร์
      1.4 สาขาวิชาภาษาศาสตร์
      1.5 สาขาวิชาภาษาอังกฤษ
      1.6 สาขาวิชาภาษาและวรรณคดีอังกฤษ
      1.7 สาขาวิชาภาษาฝรั่งเศส
      1.8 สาขาวิชาภาษาไทย
      1.9 สาขาวิชาปรัชญา
      1.10 สาขาวิชาภูมิศาสตร์
      1.11 สาขาวิชาภาษาญี่ปุ่น
      1.12 สาขาวิชาภาษาจีน
      1.13 สาขาวิชาภาษาเยอรมัน
      1.14 สาขาวิชาภาษารัสเซีย
      1.15 สาขาวิชาอังกฤษ-อเมริกันศึกษา
      1.16 สาขาวิชาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา
      1.17 สาขาวิชารัสเซียศึกษา
      1.18 การสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ

   2. ผลิตบัณฑิตระดับบัณฑิตศึกษา ดังนี้
      2.1 ระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต 1 สาขาวิชาได้แก่ ประกาศนียบัตรบัณฑิตสาขาวิชาภาษาอังกฤษ
สำหรับธุรกิจและการจัดการ (โครงการพิเศษ)
      2.2 ระดับปริญญาโทจำนวน 12 สาขาวิชาได้แก่
            2.2.1 สาขาวิชาภาษาศาสตร์เพื่อการสื่อสาร
            2.2.2 สาขาวิชาประวัติศาสตร์
            2.2.3 สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์
            2.2.4 สาขาวิชาจิตวิทยาอุตสาหกรรมและองค์การ (โครงการพิเศษ)
            2.2.5 สาขาวิชาการแปลภาษาฝรั่งเศส – ไทย
            2.2.6 สาขาวิชาฝรั่งเศสศึกษา
            2.2.7 สาขาวิชาจิตวิทยาการปรึกษา
            2.2.8 สาขาวิชาพุทธศาสนศึกษา
            2.2.10 สาขาวิชาภาษาไทย
            2.2.11 สาขาวิชาภาษาและวรรณคดีอังกฤษ
            2.2.12 สาขาวิชาการแปลภาษาอังกฤษและไทย (โครงการพิเศษ)
      2.3 ระดับปริญญาเอก 1 สาขาวิชา ได้แก่ สาขาวิชาภาษาศาสตร์

   3. บุคลากรประกอบด้วย
      -อาจารย์ประจำชาวไทย XXX คน
      -อาจารย์ลูกจ้างชาวต่างประเทศงบคลัง XX คน
      -อาจารย์ชาวต่างประเทศงบโครงการพิเศษ XX คน
      -ข้าราชการ/พนักงาน XX คน
      -ลูกจ้างงบพิเศษ+ลูกจ้างคณะ/โครงการพิเศษ XX คน
      -ลูกจ้างประจำ XX คน

   4. นักศึกษาระดับปริญญาตรี X,XXX คน และระดับบัณฑิตศึกษา XXX คน 
และได้ผลิตบัณฑิตระดับปริญญาตรีมาแล้ว XX,XXX คน และระดับบัณฑิตศึกษา X,XXX คน

   5. มีอาคารเรียนและอาคารทำการของคณะศิลปศาสตร์ดังนี้
      5.1 อาคารที่ท่าพระจันทร์ ประกอบด้วยอาคาร 8 ชั้น 2 อาคาร และอาคาร 3 ชั้น 1 อาคาร
      5.2 อาคารที่ศูนย์รังสิต 9 ชั้น จำนวน 2 อาคาร

   การบริหารจัดการศึกษาของคณะศิลปศาสตร์แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ
   -ที่ท่าพระจันทร์
      1)เปิดสอนระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต และระดับบัณฑิตศึกษาทั้งโครงการภาคปกติและโครงการพิเศษ
      2)จัดการศึกษาโครงการพิเศษระดับปริญญาตรี 2 สาขาวิชา คือ
โครงการอังกฤษ-อเมริกันศึกษาและโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา
   -ที่ศูนย์รังสิต
      1)จัดการเรียนการสอนวิชาพื้นฐานทั่วไปในส่วนที่คณะศิลปศาสตร์รับผิดชอบให้แก่นักศึกษาทุกคณะ
      2)จัดการเรียนการสอนวิชาเอกสำหรับนักศึกษาของคณะศิลปศาสตร์
       และเปิดสอนวิชาโทและวิชาเลือกเสรีให้แก่นักศึกษาของคณะต่างๆที่มาเลือกเรียน
      3)เปิดสอนโครงการพิเศษระดับปริญญาตรีสาขาวิชารัสเซียศึกษา และสาขาวิชาการสื่อสารภาษาอังกฤษเชิงธุรกิจ



ประวัติความเป็นมามหาวิทยาลัยธรรมศาตร์
     มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก่อตั้งเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2477 โดยมีชื่อเมื่อเริ่มก่อตั้งว่า "มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์ และการเมือง" (มธก.)
มหาวิทยาลัยนี้ถือกำเนิดมาจากความคิดริเริ่มของ ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ (รัฐมนตรีว่าการ กระทรวง มหาดไทย ในขณะนั้น)
โดยเล็งเห็นว่าการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ขณะนั้นมีจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัยเพียงแห่งเดียว เมื่อมีการ เปลี่ยนแปลงการปกครอง
เป็นระบอบประชาธิปไตยใน พ.ศ.2475 ประเทศชาติ มีความจำเป็นต้องมีบุคคล ที่มีความรู้ ทางกฎหมาย การปกครอง และสังคม
มารับใช้ประเทศชาติโดยด่วน จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย วิชาธรรมศาสตร์ และการเมือง พ.ศ.2476 เพื่อเปิดสอน
ในวิชาแขนงดังกล่าว เมื่อพระราชบัญญัติผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ได้มีพิธี เปิดมหาวิทยาลัยขึ้น เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2477
โดยผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์เป็นผู้กระทำพิธีเปิด และ ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ ได้รับแต่งตั้งเป็นบุคคลสำคัญของมหาวิทยาลัย
คนแรกของมหาวิทยาลัย (และเป็นบุคคลสำคัญของมหาวิทยาลัยคนเดียว เพราะต่อมาได้เปลี่ยนชื่อ ตำแหน่ง เป็นอธิการบดี.
ปรัชญาของการตั้งมหาวิทยาลัย ปรากฏตามสุนทรพจน์ ของศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ รายงานต่อผู้สำเร็จราชการ แทนพระองค์มีดังนี้
"...มหาวิทยาลัยย่อมอุปมา ประดุจบ่อน้ำ บำบัดความกระหายของราษฎร ผู้สมัครแสวงหาความรู้ อันเป็นสิทธิและโอกาส ที่เขาควรมีควรได้
ตามหลักเสรีภาพของการศึกษา..."
ด้วยเหตุนี้มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง จึงเป็นตลาดวิชา และเป็น มหาวิทยาลัยเปิดแห่งแรกของประเทศไทย โดยให้สิทธิแก่
ผู้ที่เคยศึกษาในโรงเรียน
กฎหมายผู้สำเร็จประโยคมัธยมศึกษา และเปิดกว้างให้ถึงผู้ที่เป็น ข้าราชการ สมาชิกสภาผู้แทน ฯ ผู้แทนตำบล ครู ทนายความ เข้าเรียน
ได้ด้วย ปรากฏว่าในปีแรกมีผู้สมัครเข้าศึกษาถึง 7,094 คน
วิชาที่เปิดสอนมี 2 แขนงคือ หลักสูตรธรรมศาสตรบัณฑิต ซึ่งสอนวิชากฎหมายเป็นหลัก แต่ได้สอนวิชารัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และการ
ฑูตด้วย เมื่อจบปริญญาตรีธรรมศาสตรบัณฑิตก็อาจศึกษาต่อปริญญาโท แยกเป็นแขนงนิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ และการฑูตต่อไป
วิชาอีกแขนงหนึ่งคือ วิชาการบัญชี โดยมี หลักสูตร 3 ปี สำหรับประกาศนียบัตร ทางการบัญชี (เทียบเท่าปริญญาตรี) และ 5 ปี
สำหรับประกาศนียบัตร
ชั้นสูงทางการบัญชี (เทียบเท่าปริญญาโท)
จากวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี พนมยงค์ ทำให้ผู้ไม่มีโอกาสได้ศึกษาถึงขั้นมหาวิทยาลัยได้จบปริญญา และประกาศ
นียบัตรไปรับใช้ประเทศชาติ ในทางการเมือง กระทรวงทบวงกรมต่าง ๆ วงการธุรกิจ และอาชีพอิสระเป็นอันมาก
สำหรับที่ตั้งมหาวิทยาลัย ครั้งแรกใช้ตึกโรงเรียนกฎหมายเดิมที่เชิงสะพานผ่านฟ้าภิภพลีลา ต่อมาเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2478 
มหาวิทยาลัยขอซื้อที่ดินบริเวณ 
ท่าพระจันทร์ ซึ่งเดิมป็นที่ของทหาร และปรับปรุงอาคารเดิมพร้อมทั้งสร้างตึกโดม (อันหมายถึงปัญญา และความเฉียบแหลม) เงินที่ซื้อที่ดินรวมทั้ง 
การก่อสร้างได้มาจากเงินที่มหาวิทยาลัย เก็บจากค่าสมัคร และค่าเล่าเรียน (คนละ 20 บาท ต่อปี) นอกจากนี้ ในเวลาต่อมา
มหาวิทยาลัยยังได้ตั้งธนาคารเอเชียขึ้น 
เพื่อเป็นสถานที่ สำหรับนักศึกษาวิชาการบัญชี ใช้เป็นที่ฝึกงานด้วย
ในปี พ.ศ.2481 มหาวิทยาลัยตั้งโรงเรียนเตรียมปริญญามีหลักสูตร 2 ปี เพื่อรับผู้ประสงค์จะเข้าเรียนต่อ ที่มหาวิทยาลัย วิชาธรรมศาสตร์และ
การเมืองโดยตรง
โรงเรียนเตรียมปริญญามีหลักสูตรการสอนหนักไปทางด้านภาษา ทั้งภาษาไทย ภาษาบาลี ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และวิชาด้านสังคม
เช่น ปรัชญา
วิชาเทคโนโลยี ดนตรี พิมพ์ดีด และชวเลข เป็นต้น โรงเรียนเตรียม ปริญญามีทั้งหมดรวม 8 รุ่น จนถึงปี พ.ศ.2490 จึงถูกยกเลิกไป
เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2490 คณะรัฐประหาร ได้ยึดอำนาจการปกครองประเทศ ด้วยเหตุผลทางการเมือง และการ ปกครอง ของคณะรัฐประหาร
ทำให้ มหาวิทยาลัยได้รับผลกระทบ และถูกเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม บุคคลสำคัญของมหาวิทยาลัย ปรีดี พนมยงค์ ต้องลี้ภัย
การเมืองไปอยู่ต่างประเทศ
ชื่อมหาวิทยาลัยถูกตัดคำว่า"การเมือง" ออก เปลี่ยนเป็น "มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" ตำแหน่ง ผู้ประศาสน์ การถูกยกเลิก เปลี่ยนเป็นอธิการบดี
หลักสูตรการศึกษาธรรมศาสตรบัณฑิตถูกเปลี่ยนแปลงเป็น นิติศาสตร์ รัฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์ พาณิชยศาสตร์และการบัญชี
 ความเป็นตลาดวิชาหมดไป
ตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ พ.ศ.2495
ในปี พ.ศ.2518 ศาสตราจารย์ ดร.ป๋วย อึ๊งภากรณ์ เป็นอธิการบดี ท่านเห็นว่า ควรที่จะขยายการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์ในชั้น ปริญญาตรีเพิ่มขึ้น
 ทั้งนี้เพราะ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี มีส่วนสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาสังคมเช่นเดียวกับหลักสูตรทางสังคมศาสตร์ที่มียู่เดิม
พื้นที่ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ มีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ ไม่เพียงพอ ต่อการขยายตัว ทางวิชาการและการพัฒนา มหาวิทยาลัยจึงเจรจาขอใช้
ที่ดินนิคมอุตสาหกรรม กระทรวง อุตสาหกรรม เนื้อที่ประมาณ 2,400 ไร่ ที่รังสิต เพื่อสนองรับการขยายตัว ของมหาวิทยาลัยต่อไป
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จึงขยายออกไปที่รังสิต เรียกว่า มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งเจริญ ก้าวหน้าและพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน
 นอกจากนี้ ยังขยายไปที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยาด้วย โดยอยู่บนพื้นฐานการปลูกฝัง
จิตวิญญาณความเป็นธรรมศาสตร์ ดั่งเช่น จิตวิญญาณธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์


                                                     Image

               ตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัยธรรมศาตร์

  
คติพจน์เป็นเลิศ เป็นธรรม ร่วมนำสังคม
สถาปนา27 มิถุนายน พ.ศ. 2477 (84 ปี)
ประเภทในกำกับของรัฐ
อธิการบดีรศ.เกศินี วิฑูรชาติ[1]
นายกสภาศ.นรนิติ เศรษฐบุตร
จำนวนผู้ศึกษา37,773 คน[2] (มีนาคม พ.ศ. 2559)
ที่ตั้ง
• ท่าพระจันทร์
ถนนหน้าพระธาตุ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร10200
• ศูนย์รังสิต
99 หมู่ 18 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี12120
• ศูนย์ลำปาง
248 หมู่ 2 ตำบลปงยางคก อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง 52190
• ศูนย์พัทยา
39/4 หมู่ 5 ตำบลโป่ง อำเภอบางละมุงจังหวัดชลบุรี 20150
วิทยาเขต4 วิทยาเขต
ชื่อเดิมมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง (ม.ธ.ก.)
The University of Moral and Political Sciences (UMPS)
สีประจำสถาบัน
มาสคอตตึกโดม
เครือข่ายLAOTSE, GMSARN
เว็บไซต์www.tu.ac.th



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

มหาลัยราชภัฎภูเก็ตคณะเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม